โดยคร่าว ๆ ระบบการเดินของนาฬิกามี 3 แบบคือ
1. ระบบไขลาน(Manual winding) โดยภายในจะมีขดลาน เมื่อเราไขลานตรงเม็ดมะยมก็จะทำให้ลานตึง เมื่อลานคลายตัวก็จะกลายเป็นพลังงานขับเคลื่อนการเดินของเข็ม
2. ระบบออโตเมติค(Automatic winding) ใช้หลักการเดียวกันกับไขลานแต่เพิ่มกลไกที่ช่วยให้เครื่องเดินได้โดยไม่ต้องไขลานด้วยมือ โดยหลัก ๆ ก็จะใช้ rotor ที่ช่วยเหวี่ยงเข้าลานเมื่อเวลาที่เราสวมใส่และมีการเคลื่อนไหวและลานจะถูกขันให้ตึง ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีของผู้ผลิตว่าจะสามารถทำให้ลานเก็บพลังงานสำรองได้นานขนาดไหนเมื่อเราถอดนาฬิกาออกแล้ว เช่น 36 ชม.ฯลฯ
3. ระบบควอตซ์ (Quartz) เป็นการหลักการของระบบไฟฟ้า โดยจะมีแผงวงจรในการสร้างพลังงาน ส่งผ่านผลึกควอตซ์ แปลงออกมาเป็นความถี่ ผ่านไปยังไมโครโพรเซสเซอร์เพื่อควบคุมความเที่ยงตรงในการเดิน รวมทั้งฟังก์ชั่นต่าง ๆ
ควอตซ์เกิดในยุคทศวรรษที่ 60 ทำให้อุตสาหกรรมนาฬิกาเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงผู้ผลิตนาฬิกาในสวิสต้องปิดกิจการกันเกือบหมด เหลือเพียงไม่กี่รายที่ยืนหยัดได้ในปัจจุบันทั้งนี้เพราะ ความที่ควอตซ์ถูกกว่าและเที่ยงตรงกว่าระบบออโต มาก อย่างไรก็ตาม นาฬิกาไม่ได้เป็นเพียงเครื่องบอกเวลา สำหรับหลายคนมันเป็นแฟชั่น มันเป็นศิลปะ และจิตวิญญาณ ทำให้นาฬิการะบบออโตยืนยงคงกระพันและมีค่าตัวสูงมาก บางเรือนราคาเป็นหลักร้อยล้านก็ยังแย่งกันครอบครอง
ข้อเสียของควอตซ์หลัก ๆ ก็คือ แผงวงจรมีอายุประมาณ 5-10 ปี เมื่อเปลี่ยนจะมีค่าใช้จ่ายสูง และแบตเตอรี่ที่ใช้จะต้องระวังเมื่อเวลาที่หมดอายุแล้ว หากไม่นำไปเปลี่ยนตัวน้ำกรดจากแบตเตอรี่จะไหลออกมา ทำให้เครื่องเสียหายจนอาจต้องทิ้งนาฬิกาไปเลย
Chronograph คือนาฬิกาที่มีฟังก์ชั่นการจับเวลา ไม่ว่าจะเป็นระบบใดก็ตาม
หน้าที่เข้าชม | 1,337,573 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 551,407 ครั้ง |
เปิดร้าน | 25 ธ.ค. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 17 ก.ค. 2568 |